รถยนต์ไฟฟ้า

อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ด้วยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้นวัตกรรมต่างๆ มีการพัฒนาอย่างมากมายไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมยานยนต์นั้นเอง บทความนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปอ่านไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ “อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า” ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง? แนวโน้มอุตสาหกรรมด้านนี้จะเป็นแบบไหน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ

อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้าที่น่าสนใจ

จะเห็นได้ว่านวัตกรรมของยานพาหนะอย่างรถยนต์ในช่วงหลังๆ นี้จะมีการเปิดตัวรถยนต์ประเภท EV-Car หรือที่เราเรียกว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” กันอย่างมากมายซึ่งอีก 5 ปีข้างหน้า เราเชื่อว่าจะมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกันในตลาดและจะมีการวางแท่นชาร์จกระจายตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น รถยนต์ประเภทการใช้น้ำมันจะค่อยๆ ลดน้อยลง แต่ปัญหาที่อาจจะตามมานั้นก็คือ “การขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า” ได้เช่นกันครับและเชื่อกันว่ารถยนต์แต่ละแบรนด์จะมีระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองอีกด้วยครับ

3 หัวข้อสำคัญที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

●เทคโนโลยีแบตเตอรี่จะมีความจุมากขึ้นและขนาดเล็กลง

ด้วยความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์ที่ล้ำสมัยขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่สูงขึ้น รถยนต์วิ่งได้ไกลขึ้น ประกอบกับต้นทุนที่ลดลงจากการผลิตแบบ Economy of Scale ทำให้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง ถึง 89% และ Bloomberg New Energy Finance คาดการณ์ว่า ในปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้า จะมีราคาเทียบเคียงกับ รถยนต์ ICE ในสมรรถนะที่เท่ากัน จนมีคำที่หลายคนพูดกันว่า “หลังปี 2025 จะไม่มีเหตุผลที่ผู้คนจะเลือกซื้อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอีกต่อไป“

●ปัญหามลพิษทางอากาศจะค่อยๆ ดีขึ้นจากข้อตกลงระหว่างประเทศและการเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า

การเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถยนต์ ICE มีผลก่อให้เกิดมลพิษต่างๆ ก๊าซเรือนกระจก ฝุ่นละออง ไอเสีย ซึ่งส่งผลต่อโลกที่ร้อนขึ้น เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากขึ้น จนทำให้ สนธิสัญญาปารีส (COP-21) มีการทำข้อตกลงร่วมกัน ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลง 20-25% ในปี  2030 ซึ่งภาคอุตสาหกรรมขนส่ง ถือได้ว่า เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการผลักดัน

●จะมีการผลักดันเชิงนโยบายของนานาประเทศเกี่ยวกับการรนณรงค์ให้เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า

จากที่ในหลาย ๆ ประเทศได้เห็นตรงกัน ถึงความสำคัญ และความจำเป็นของการสนับสนุนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า หลายประเทศจึงใช้นโยบาย การแบนรถยนต์ ICE หรือในหลายประเทศใช้นโยบายในการกำหนดเป้าหมายสัดส่วน รถยนต์ใหม่ที่จะต้องเป็นรถ EV ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ

ทำไมราคาของ รถยนต์ไฟฟ้า จึงสูงมากอยู่ในปัจจุบัน

เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ยังกระจุกตัวเพียงไม่กี่แบรนด์และการคาดการสนับสนุนจากรัฐ จึงทำให้ราคานำเข้ามาขายในไทยและราคาขายสูง ซึ่งปัจจุบันก็มีรถยนต์ไฟฟ้าจัดจำหน่ายแล้วหลายรุ่น หลายค่าย เช่น MG ZS EV รถ SUV จากค่ายเอ็มจี ราคาอยู่ที่ 1.19 ล้านบาท , Nissan Leaf จากค่ายนิสสัน ซึ่งเป็นรถนำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่น ราคา 1.99 ล้านบาท, Audi e-tron จากค่ายอาวดี้ ราคาประมาณ 5 ล้านบาท  ต้องรออีกเสียหน่อย การแข่งจะสูงขึ้นและราคารถยนต์ไฟฟ้าจะค่อยๆ ลดลงครับ

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า

●ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ สำหรับโลกของเราที่ตกอยู่ในสภาวะโลกร้อน รถยนต์ไฟฟ้าคือคำตอบที่เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการลดมลภาวะของโลก เพราะไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดไอเสียและมลภาวะทางอากาศที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน เช่นควันไอเสียของรถยนต์ก็จะหายไป

●สะดวกสบายด้วยระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น  Auto Pilot, ระบบนำทางหรือระบบความปลอดภัยต่างๆ

และนี้คือ “อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆท่านไม่มากก็น้อยครับ

ด้วยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้นวัตกรรมต่างๆ มีการพัฒนาอย่างมากมายไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมยานยนต์นั้นเอง บทความนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปอ่านไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ “อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า” ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง? แนวโน้มอุตสาหกรรมด้านนี้จะเป็นแบบไหน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้าที่น่าสนใจ จะเห็นได้ว่านวัตกรรมของยานพาหนะอย่างรถยนต์ในช่วงหลังๆ นี้จะมีการเปิดตัวรถยนต์ประเภท EV-Car หรือที่เราเรียกว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” กันอย่างมากมายซึ่งอีก 5 ปีข้างหน้า เราเชื่อว่าจะมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกันในตลาดและจะมีการวางแท่นชาร์จกระจายตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น รถยนต์ประเภทการใช้น้ำมันจะค่อยๆ ลดน้อยลง แต่ปัญหาที่อาจจะตามมานั้นก็คือ “การขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า” ได้เช่นกันครับและเชื่อกันว่ารถยนต์แต่ละแบรนด์จะมีระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองอีกด้วยครับ 3 หัวข้อสำคัญที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ●เทคโนโลยีแบตเตอรี่จะมีความจุมากขึ้นและขนาดเล็กลง ด้วยความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์ที่ล้ำสมัยขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่สูงขึ้น รถยนต์วิ่งได้ไกลขึ้น ประกอบกับต้นทุนที่ลดลงจากการผลิตแบบ Economy of Scale ทำให้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง ถึง 89% และ Bloomberg New Energy…

ด้วยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้นวัตกรรมต่างๆ มีการพัฒนาอย่างมากมายไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมยานยนต์นั้นเอง บทความนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปอ่านไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ “อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า” ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง? แนวโน้มอุตสาหกรรมด้านนี้จะเป็นแบบไหน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ อนาคตเทคโนโลยียานยนต์ในอีก 5 ปีข้างหน้าที่น่าสนใจ จะเห็นได้ว่านวัตกรรมของยานพาหนะอย่างรถยนต์ในช่วงหลังๆ นี้จะมีการเปิดตัวรถยนต์ประเภท EV-Car หรือที่เราเรียกว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” กันอย่างมากมายซึ่งอีก 5 ปีข้างหน้า เราเชื่อว่าจะมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกันในตลาดและจะมีการวางแท่นชาร์จกระจายตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น รถยนต์ประเภทการใช้น้ำมันจะค่อยๆ ลดน้อยลง แต่ปัญหาที่อาจจะตามมานั้นก็คือ “การขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า” ได้เช่นกันครับและเชื่อกันว่ารถยนต์แต่ละแบรนด์จะมีระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองอีกด้วยครับ 3 หัวข้อสำคัญที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ●เทคโนโลยีแบตเตอรี่จะมีความจุมากขึ้นและขนาดเล็กลง ด้วยความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์ที่ล้ำสมัยขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่สูงขึ้น รถยนต์วิ่งได้ไกลขึ้น ประกอบกับต้นทุนที่ลดลงจากการผลิตแบบ Economy of Scale ทำให้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง ถึง 89% และ Bloomberg New Energy…